อนุทิน เตือนฉลองปีใหม่อย่างระมัดระวัง ห้ามใช้แก้วน้ำร่วมกัน หรือล้วงถังน้ำแข็ง ย้ำไม่ได้ปิดประเทศ ตำหนิสื่อสร้างความสับสนให้ประชาชน นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมากล่าวถึงกรณีที่ ครอบครัวหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางไปเยี่ยมบุตรเขยที่จังหวัดอุดรธานี เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ขณะเดินทางเข้าตรวจไม่พบเชื้อ ก่อนจะตรวจพบภายหลังว่าเป็นสายพันธุ์ โอมิครอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะทราบเส้นทางของผู้ติดเชื้อแล้ว
ในประเด็นของการจัดงานปีใหม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า
ศบค.เข้าใจถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ ที่ได้ลงทุนใช้จ่ายและเตรียมการจัดงานไปแล้ว จึงให้มีการจัดงานได้ตามเงื่อนไขเดิม แต่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ปฏิบัติตามมาตรการที่สาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ยกตัวอย่าง ในบางจังหวัด จัดงานแล้วไม่สามารถควบคุมจำนวนคนได้ ผู้จัดงานต้องรับโทษตามกฎหมาย ส่วนผู้อนุญาตก็ต้องรับผิดชอบตามระเบียบ ฝากถึงคนไทยที่จะฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ หากเป็นไปได้ ไปฉลองกันในวงเล็ก ไม่ใช้ช้อนหรือแก้วน้ำร่วมกัน และ ที่สำคัญกระติกน้ำแข็งอันตรายที่สุด อย่าใช้มือล้วงหยิบน้ำแข็ง
โดย นายอนุทิน ยังได้ตำหนิสื่อมวลชนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ประชาชนสับสนจากกรณีที่ทาง ศบค. มีมติยกเลิกการลงทะเบียน Test&Go และปิดรับนักท่องเที่ยวใหม่ ย้ำว่า ไม่มีการประกาศปิดประเทศ เพียงแค่เพิ่มมาตรการ ช่วยลดความเสี่ยง ให้ประเทศปลอดภัย ตนเองเห็นข่าวถึงกับสะดุ้ง เพราะข่าวที่ให้ไปไม่ใช่แบบนี้ ย้ำการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศขณะนี้มี 2 ทางเลือก คือการเดินทางผ่านโครงการ Phuket Sandbox และ การกักตัวตามเงื่อนไข ซึ่งการประเมินอีกครั้งในวันที่ 4 มกราคม
ปี 2563 – “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” ปีนี้มีความสำคัญว่าเป็นปีแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯจากการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งในปีนี้นายกฯได้สร้างความตระหนักถึงการรู้ถึงหน้าที่ พลเมืองไทย และให้ร่วมกันสร้างสังคมแห่งความรักความสามัคคี โดยการน้อมนำแนวทางอุทิศตนเป็นผู้ให้และเสียสละเพื่อส่วนรวมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสร้างคุณประโยชน์แก่สังคม
ปี 2564 – “เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดี มีคุณธรรม” ในช่วงปี 2563 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเผชิญกับแรงกดดันขับไล่รัฐบาลอย่างต่อเนื่อง รวมคำเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบัน โดยในปีนี้จึงมีการพูดถึงความภักดี ซึ่งต่างจากปีก่อนๆที่ไม่เคยปรากฏอยู่คำขวัญ
‘ธนกร’ ฟาด ‘เสรีพิศุทธ์’ ชี้ ปชช. อยากได้ฝ่ายค้านรู้หน้าที่
ธนกร สวน เสรีพิศุทธ์ หลัง หัวหน้าพรรคเสรีไทย บอกของขวัญที่ประชาชนอยากได้คือ นายกฯลาออก ยกโพล ปชช. อยากได้ฝ่ายค้านรู้หน้าที่
นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องลาออก ไม่ต้องรอถึงเดือนสิงหาคม 65 ว่า
โดยนาย ธนกร ระบุว่า ไม่แน่ใจว่าการเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกนั้น เป็นของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้ หรือว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อยากได้กันแน่ และไม่แน่ใจว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปอยู่ที่ไหนมา ถึงไม่รู้ว่าสำนักวิจัยซูเปอร์โพลได้ทำการสำรวจแล้วพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังพอใจการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด หรือเห็นว่าการเลือกตั้งสมัยหน้ามีแนวโน้มที่จะใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
ซึ่งจะทำให้พรรคเล็กอยู่ลำบาก จึงต้องรีบออกมาดิสเครดิตท่านนายกฯ เพื่อไม่ให้ชื่อตัวเองหายไปจากหน้าสื่อ ส่วนการลดค่าทางด่วน ลดค่าไฟ ลดค่าน้ำ ถึงแม้ว่านโยบายเหล่านี้คือภาษีของประชาชน แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลนำเงินภาษีของประชาชนกลับมาช่วยเหลือประชานอย่างแท้จริง ไม่ได้เอาไปทุจริตในโครงการต่างๆ เหมือนบางรัฐบาลที่ผ่านมา
“ที่บอกว่าประชาชนเขาเบื่อ อยากให้ออก เขาเหม็นหน้านั้น ผมไม่แน่ใจว่าประชาชนเขาเบื่อท่านนายกฯ หรือว่าเบื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กันแน่ ประชาชนเขาคงเอือมที่ต้องนั่งฟังการอภิปรายในสภาฯ ที่แต่ละครั้งพูดซ้ำวนแต่เรื่องเดิมๆ แต่ใช้เวลาอภิปรายเป็นชั่วโมงๆ โดยไม่ได้สาระอะไร ผมเชื่อว่าของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้นั้น น่าจะเป็นฝ่ายค้านที่รู้จักทำหน้าที่ของตัวเองในการตรวจสอบรัฐบาลผ่านกลไกรัฐสภา ไม่ใช่เล่นการเมืองบนท้องถนนมากกว่า เพราะประชาชนเขาเริ่มเอือมแล้ว”นายธนกร กล่าว
โดยทนายตั้มระบุว่า “ส.ส.เต้โกหกออกสื่อนะครับ ที่บอกว่าโทรมาคุยกับผมแล้วบอกเรื่องลูกไล่ หรือทันเกมส์ หรือแข่งกับใคร กับบอกผมว่าขออำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน คำพูดเหล่านี้ล้วนแต่งเติมให้สัมภาษณ์สื่อทั้งสิ้น
ส.ส.เต้ โทรหาผมคำแรกพูดก่อนเลยว่า เห้ย!! น้องว่าพี่ออกสื่อขนาดนี้เลยเหรอ (น้ำเสียงแบบข่มผม) ผมก็สวนสิครับ ว่าเป็นถึง ส.ส.อย่าโดนหลอกอะไรง่ายๆ แล้วผมก็เล่าเรื่องบังแจ็คให้ ส.ส.เต้ฟัง คุยกันไม่นานนะครับ อย่าบิดเบือนออกสื่อให้คนเข้าใจผิด
จำได้ไหมที่ทั้งโทร ทั้งไลน์หาผม หลายๆรอบ ขอให้ผมช่วยแชร์โพสของตัวเอง บอกเพจผมคนติดตามเยอะ ช่วยแชร์พี่หน่อย เราพวกเดียวกัน แต่ผมไม่แชร์ให้ ผมไม่โง่นะครับ รู้เจตนาดีว่า ส.ส.เต้ ต้องการอะไรกับคดีนี้ อย่ามาเก็บคะแนนนิยมทางการเมืองกับการสูญเสียแบบนี้ มันไม่คูล”
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป